ร่องแก้มลึกเป็นสัญญาณหนึ่งของการเสื่อมสภาพของผิวทำให้หน้าดูโทรม แก่กว่าวัย และยังทำให้เจ้าของใบหน้าหมดความมั่นใจได้ แม้ว่าจะพยายามแต่งหน้า ปกปิดด้วยการถมคอนซีลเลอร์ แต่ปัญหาร่องลึก เห็นเป็นเส้นข้างแก้มก็ไม่จางหายไป ที่สำคัญคัญหากปล่อยไว้นาน ร่องแก้มลึกก็จะยิ่งชัดเจนขึ้น
ความกังวลเหล่านี้จะหมดไป หากรู้วิธีลดริ้วรอยร่องแก้มลึกอย่างถูกวิธี บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีแก้ไขร่องแก้มลึก พร้อมรู้สาเหตุของร่องแก้มลึกที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไรบ้าง ? แล้วควรเลือกวิธีแก้ไขวิธีไหนที่สามารถแก้ไข้ได้อย่างตรงจุด
สารบัญ ร่องแก้มลึก
- สาเหตุการเกิดร่องแก้มลึก
- 5 วิธีแก้ร่องแก้มลึกสุดฮิต มีอะไรบ้าง ?
- 1. ครีมบำรุงผิว ลดริ้วรอยร่องแก้มลึก
- 2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก
- 3. โบท็อกลดร่องแก้ม
- 4. ฉีดไขมันลดร่องแก้ม
- 5. Hifu ยกกระชับร่องแก้ม
สาเหตุการเกิดร่องแก้มลึก
ก่อนจะไปดูวิธีการแก้ปัญหาร่องแก้มลึก มาทำความรู้จักถึงสาเหตุของร่องแก้มลึกกันก่อนว่าเกิดได้จากอะไรบ้าง ?
- ร่องแก้มลึกเกิดจากความเสื่อมสภาพของผิวหนังตามวัย : เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายของเราจะผลิตคอลลาเจน และอีลาสตินลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น แห้ง ขาดน้ำ จึงทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอยร่องลึกบริเวณแก้มได้ง่าย
- ร่องแก้มลึกจากการยุบตัวของกระดูก
การยุบตัวของกระดูกที่ส่งผลให้เกิดปัญหาร่องแก้ม มีสาเหตุจากการยุบตัวของกระดูก 2 ตำแหน่ง คือ- การยุบตัวของกระดูกใต้ตา (อายุ 30 ปีขึ้นไป) : เมื่อกระดูกใต้ตายุบลง เนื้อแก้มด้านบนจะหย่อนลงมากองบริเวณเหนือร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มดูลึกชัดเจนมากขึ้น
- กระดูกร่องแก้มยุบ (อายุ 20-30 ปี) : ในคนที่อายุน้อยมักเห็นการยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง ทำให้เกิดรอยลึกข้างแก้มเล็กน้อยแต่ยังไม่ชัดเจนมาก
- การทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า : การหัวเราะ การยิ้มมาก ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป เหมือนการออกกำลังกายกล้ามเนื้อบริเวณนั้นซ้ำ ๆ ผลที่ได้คือ ทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปรอยพับเหล่านี้จะกลายเป็นร่องแก้มลึกที่เด่นชัด
- ปัจจัยภายนอก และมลภาวะ : อากาศแห้งหรือหนาวจัดทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น การโดนแสงแดดบ่อย ๆ รังสี UV ทำลายคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ชั้นผิวถูกทำลายเกิดร่องลึกได้ง่ายขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : ความเครียด การสูบบุหรี่ การนอนดึก การนอนตะแคง การบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลกระทบต่อการสภาพผิว และทำให้เกิดร่องแก้มลึกได้ง่ายขึ้น
- การสูญเสียมวลไขมัน : การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณแก้มจะลดลง ทำให้ผิวยุบตัว เห็นร่องแก้มลึกที่ชัดมากขึ้น
5 วิธีแก้ร่องแก้มลึกสุดฮิต มีอะไรบ้าง ?
การมีร่องแก้มลึกทำให้ดูแก่กว่าวัย ส่งผลต่อบุคลิกภาพโดยรวมได้ ในปัจจุบันมีวิธีการแก้ไขร่องแก้มลึกหลากหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นวิธีธรรมชาติหรือวิธีทางการแพทย์ ซึ่งมีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไปโดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ครีมบำรุงผิว ลดริ้วรอยร่องแก้มลึก
การใช้ครีมบำรุงผิวประเภทประเภทแอนไทเอจจิ้งที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน และไฮยาลูรอนิคแอซิดเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว สามารถช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุนขึ้น จึงช่วยชะลอการการเกิดริ้วรอยจากสาเหตุของผิวแห้ง ผิวขาดน้ำได้ แนะนำใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น โดยทาครีมในปริมาณที่เหมาะสม และนวดเบา ๆ เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี : เป็นวิธีที่ได้ง่าย ทำได้ทุกวัน สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยได้ ปัจจุบันมีครีมหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพ สามารถเลือกซื้อมาใช้ได้หลากหลายราคาตามงบประมาณที่มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน
ข้อเสีย : การใช้ครีมทำได้แค่เพียงชะลอหรือลดการเกิดริ้วรอยเล็กน้อยเท่านั้น ในกรณีที่มีปัญหาร่องแก้มลึกเกิดขึ้นแล้ว การทำครีมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดร่องแก้มลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังต้องใช้ความสม่ำเสมอ และมีวินัยในการทาครีมอย่างมาก
2. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการใช้สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหาเพื่อเติมเต็มร่องแก้มลึกให้ดูตื้น และเต่งตึงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยผลลัพธ์อยู่ได้ 12-24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่น-ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด การดูแลตัวเอง หลังฉีดสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และเป็นการแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ตรงจุดที่สุด
ข้อดี : ให้ผลลัพธ์เห็นได้ชัดเจน และรวดเร็ว โดยมีการฉีดสารเติมเต็มบริเวณร่องแก้มโดยตรง ทำให้ร่องแก้มลึกดูตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียน ไร้ริ้วรอย
ข้อเสีย : ผลลัพธ์ไม่ถาวรต้องกลับมาฉีดซ้ำ เพราะฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์อาจเสี่ยงทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้
3. โบท็อกลดร่องแก้ม
การฉีดโบท็อกหรือ (Botulinum toxin A) ด้วยเทคนิค Dermotoxin จะออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อที่เกิดจากการยิ้มบ่อย ๆ จนทำให้เกิดรอยพับบนผิวหนัง เมื่อกล้ามเนื้อผ่อนคลาย ริ้วรอย ร่องลึกจะดูตื้นขึ้น ควรใช้โบท็อกเพียง 50% ควบคู่ไปกับการฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิค Myomodulation จะช่วยให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติหน้าไม่แข็งจนเกินไป
ข้อดี : ช่วยคลายกล้ามเนื้อทำให้แก้มมีความกระชับ ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ได้พร้อมกัน และช่วยป้องกันไม่ให้รอยพับบนหน้า หรือริ้วรอยเล็ก ๆ บนหน้าเกิดเป็นริ้วรอยลึกหรือถาวร
ข้อเสีย : เป็นการรักษาชั่วคราวผลลัพธ์ไม่อยู่ถาวร ไม่เหมาะสำหรับร่องแก้มลึกมาก และไม่สามารถฉีดโบท็อก100%ได้เพราะจะทำให้การยิ้มดูแข็งเกินไปไม่เป็นธรรมชาติ
4. ฉีดไขมันลดร่องแก้ม
การฉีดไขมันเป็นวิธีที่คล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม โดยแพทย์จะเก็บไขมันจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้องหรือสะโพก มาปั่นแยกเป็นของเหลวแล้วทำการฉีดเข้าสู่ร่องแก้มที่มีปัญหาเพื่อเติมเต็มร่องลึก
ข้อดี : ไม่เสี่ยงกับอาการแพ้เนื่องจากใช้ไขมันจากร่างกายตัวเองมาฉีด
ข้อเสีย : ครั้งแรกอาจไม่เห็นผลต้องกลับมาทำซ้ำหลายครั้ง ต้องเจ็บตัว 2 ครั้งจากการดึงไขมันในร่างกาย และทำการฉีดไขมันในบริเวณที่มีปัญหาอีกครั้ง
5. Hifu ยกกระชับร่องแก้ม
การทำ Hifu เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงยิงเข้าสู่ผิวหนังในแต่ละชั้น เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึง ร่องลึกดูตื้นขึ้น และช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้
วิธีนี้ไม่ต้องการการผ่าตัดและไม่มีเวลาพักฟื้น ทำให้เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัย
ข้อดี : เป็นวิธีลดร่องแก้มที่ไม่มีการบาดเจ็บของผิวหนังชั้นนอก ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับปัญหาร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก
ข้อเสีย : มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เห็นผลได้ไม่ชัดเจนเท่าฟิลเลอร์ร่องแก้ม และไม่เหมาะสำหรับคนที่มีร่องแก้มลึกมาก ๆ
สำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องแก้มลึก การใช้ครีมบำรุงเป็นวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ และอาศัยระยะเวลา แต่หากร่องแก้มลึกมากการฉีดฟิลเลอร์ให้ผลที่ดีกว่า และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด
สรุป
ร่องแก้มลึกเป็นปัญหาที่ส่งผลต่อความมั่นใจ และภาพลักษณ์ได้ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดร่องแก้มลึกจะช่วยเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมได้ สำหรับใครที่ต้องการแก้ปัญหาร่องแก้มลึก การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก สามารถเติมเต็มร่องลึกได้ทันที และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับสภาพปัญหา และความต้องการมากที่สุด