ดูดไขมัน
รวมข้อมูลการ ดูดไขมัน ต้นแขน ต้นขา ด้วยวิธี Vaser, Bodytite, Water Jet ฯลฯ
ถ้าหากว่าเพื่อน ๆ กำลังศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการดูดไขมัน ต้นแขน ต้นขา หรือว่าการดูดไขมันตำแหน่งอื่น ๆ อยู่ บทความนี้คงจะมีประโยชน์กับเพื่อน ๆ อย่างแน่นอนเลยค่ะ
วันนี้ทาง Medistar จึงขออาสามาเจาะลึกวิธีการดูดไขมันทั้ง 5 วิธี ได้แก่ Vaser, Bodytite, Water Jet, Smart Lipo และ Pal ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน..
หวังว่าบทความนี้คงจะคลายความสงสัยให้กับเพื่อน ๆ ทุกคนได้นะคะ หรือถ้าใครอยากศึกษาข้อมูลตัวไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถกดลิ้งก์ เพื่อไปอ่านบทความนั้นได้ทันที
เลือกอ่าน 5 วิธีดูดไขมัน ที่นิยมกันมากที่สุดในปี 2019
1. การดูดไขมันด้วยวิธี Vaser
การดูดไขมัน “Vaser” คืออะไร ?
สรุปการทำงานง่าย ๆ ของการดูดไขมันแบบ Vaser จะเป็นการนำอุปกรณ์ใส่เข้าไปใต้ผิว แล้วจะปล่อย Ultrasound ออกมา ทำให้ไขมันย่อยออกเป็นชิ้นเล็กๆ ปนอยู่ในน้ำเกลือที่เราฉีดเข้าไปก่อนหน้านั้น แล้วจะถูกดูดออกมาพร้อมกัน
ในกรณีการใช้ VASER นานกว่าที่กำหนดหรือใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม จะทำให้เกิดไขมันไหม้ ตายเป็นหย่อมได้ จนเห็นเป็นคลื่นๆ เพราะว่าแท่งเวเซอร์ถูกออกแบบเป็นแท่งเดี่ยว
จึงทำให้ทิศทางการทำงานอาจไม่แน่นอนในแต่ละความลึก ขึ้นกับน้ำหนักมือจึงอาจไปโดนกล้ามเนื้อชั้นล่าง ๆ ได้
ข้อดี ข้อเสีย ของการดูดไขมันด้วยวิธี Vaser
การดูดไขมันด้วยวิธีนี้มีความปลอดภัยสูง วิธีนี้ยังสามารถใช้ได้แทบทุกส่วนของร่างกายเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น หน้าท้อง สะโพก ใต้คาง หรือแม้กระทั่งโหนกบริเวณหลังต้นคอ และหลังจากดูดเสร็จ ก็แทบจะไม่มีแผล หรือ มีอาการบวมอะไรเลย
วิธีการดูดไขมันด้วย Vaser จะช่วยลดการเกิดรอยฟกช้ำได้อย่างดี แถมยังทำให้แผลหลังจากดูดไขมันต้นแขน ต้นขา หายเร็วอีกด้วย ..
การดูดไขมันด้วย Vaser จะใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อยกว่าการดูดไขมันแบบต่าง ๆ และเริ่มเห็นผลหลังจากทำการดูดไขมันเพียง 3 สัปดาห์
*ข้อเสี่ยงของการดูดไขมันด้วย Vaser อีกอย่างนึงก็คือ มีโอกาสที่จะมีน้ำคั่งหลังจากดูดไขมัน แต่ไม่ต้องกลัวไปเพราะทางคุณหมอ จะรักษาและทำการเจาะออกให้นั่นเอง
*ความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดพลาด หรือเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ถ้าหากเลือกดูดไขมันกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์มากพอ
ใครที่เหมาะสมสำหรับการดูดไขมัน Vaser?
- การดูดไขมัน Vaser เป็นวิธีการลดไขมันที่เหมาะสำหรับทั้งชายและหญิง
- น้ำหนักไม่น้อยจนเกินไป โดยแพทย์ส่วนใหญ่จะประเมินก่อนทุกครั้ง
- ต้องเป็นคนที่เข้าใจว่าการดูดไขมัน Vaser จะไม่ช่วยให้ลดน้ำหนักหรือทำให้ไขมันออกไปได้ถาวรหรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ถ้าหากไม่ดูแลรักษาสุขภาพให้ดีหลังจากดูดไขมันออกไปแล้ว
- เหมาะกับผู้ที่ไม่ว่าจะออกกำลังกายหนักแค่ไหนหรือคุมอาหารการกินแล้วก็ไม่สามารถลดได้
- ต้องการกำจัดไขมันให้ออกไปอย่างรวดเร็ว และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
จากที่กล่าวมาข้างต้น หวังว่า vaser จะเป็นอีกวิธีที่เป็นตัวเลือกในการดูดไขมันของทุกท่านนะคะ โดยเฉพาะใครที่ต้องการดูดไขมันออกเป็นจำนวนมาก
แต่หากข้อมูลยังไม่จุใจ สามารถอ่านเต็มๆในบทความ การดูดไขมันแบบ Vaser โดยเฉพาะ ยิ่งศึกษาเยอะเท่าไหร่ก็จะเป็นผลดีเท่านั้นนะคะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดูดไขมัน Vaser สวยง่ายเจ็บน้อย ใช้เพียงแค่ยาชาอย่างเดียว ! สวยได้โดยไม่เสี่ยง
การดูดไขมันแบบ Bodytite
การดูดไขมัน “ Bodytite ” คืออะไร
Bodytite เป็นการดูดไขมันที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ หรือ Radiofrequency ออกมา เพื่อช่วยในการสลายไขมัน ให้มีโมเลกุลที่เล็กลง เหมาะสำหรับการดูดออกมาได้
ซึ่งจัดได้ว่าคลื่น RF นี้มีความปลอดภัยที่สูง และใช้กันอย่างกว้างขวาง เพราะข้อได้เปรียบของคลื่น RF นี้ยังมีส่วนช่วยในชั้นผิวหนังแท้ให้มีการสร้างคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดผิวที่กระชับขึ้นด้วย ถือว่าเป็นจุดเด่นเลยที่เดียว
ข้อดี ข้อเสีย ของการดูดไขมันด้วยเครื่อง bodytite
คือ ปลอดภัย ผ่านการทดสอบจากการแพทย์และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เห็นผลลัพท์ทันที ช่วยสร้างคอลลาเจน เพื่อผิวหนังที่เรียบลื่นยิ่งขึ้น
แต่ถึงอย่างไร การดูดไขมันต้นขาก็มีผลข้างเคียงเช่นกัน ทั้งที่ปกติและอันตราย ส่วนผลเสีย คือ อาจมีผลข้างเคียงที่ผิดพลาดก็สามารถเกิดขึ้นได้
หลายคนคงจะทราบกันแล้วใช่ไหมคะ ว่า การดูดไขมันแบบ Bodytite มีข้อดียังไง จุดเด่นง่ายๆที่ช่วยตัดสินใจเลยนั้นก็คือ bodytite เป็นการดูดไขมันที่ช่วยกระชับผิวไปในตัวค่ะ แต่ถ้าหากอยากทราบข้อดีที่แตกต่างกว่าการดูดไขมันแบบอื่น ๆ ได้ที่นี่นะคะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดูดไขมัน Bodytite มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร บอกได้เลยว่า คุ้มค่ามากถ้าคิดจะทำ !
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดูดไขมัน Bodytite และ Vaser ต่างกันอย่างไร
การดูดไขมันแบบบ Water jet
การดูดไขมันปัจจุบันมีหลากหลายวิธีมา ซึ่งการดูดไขมันแบบ Water Jet จะแตกต่างออกไป เป็นการดูดไขมันโดยใช้พลังงานน้ำในการแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันมีสภาพสมบูรณ์ ไม่ตาย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกายในจุดต่างๆ
ข้อดีของการดูดไขมันแบบ Water Jet
Water Jet เป็นวิธีดูดไขมันที่อ่อนโยนและเจ็บน้อยมาก ไม่ต้องนอนพักที่สถานพยาบาลและไม่ต้องดมยาสลบ เพียงแค่ให้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ทำให้ลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายได้มาก ในการดูดไขมันออก
อีกทั้งไม่ต้องใช้แรงมากเหมือนวิธีเดิมๆที่มีผลทำให้เซลล์บอบช้ำ นอกจากนี้แพทย์ที่ชำนาญยังสามารถลงรายละเอียดในการดูดทำให้ได้ผลงานที่ปราณีตสวยงาม และระหว่างที่ดูดจะไม่มีการบวม แพทย์ที่ทำการรักษาจึงสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน และสามารถสร้างสัดส่วนได้ตามที่ต้องการ
การใช้พลังงานจากน้ำ มีความอ่อนโยน และนุ่มนวลจึงไม่ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อข้างเคียงบอบช้ำ แผลจึงหายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน หลังทำมีเพียงรอยช้ำ และบวมเล็กๆ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้วิธีวอเตอร์ เจ็ท จึงเป็นวิธีดูดไขมันยอดนิยมวิธีหนึ่งในปัจจุบัน
หนึ่งในวิธีการดูดไขมันยอดฮิต ต้องยกให้ Water Jet เลยค่ะ เพราะมีความนุ่มนวล แพทย์สามารถบรรจงตกแต่งรูปร่างให้ออกมาดูดีได้
ข้อดีของการดูดไขมันแบบ Water Jet
แผลหายเร็วและมักไม่เจอผลข้างเคียง และเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หวังว่า Water Jet จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่กำลังสนใจดูดไขมันแต่กลัวเจ็บตัวนานนะคะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : [ ดูดไขมัน Water Jet ] สลายไขมันด้วยพลังงานน้ำ แผลเล็กเจ็บน้อย !
การดูดไขมันแบบ Smart lipo
Smartlipo เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อทำการสลายไขมันด้วยเลเซอร์
โดยทั่วไปเรียกว่าการดูดไขมันด้วยเลเซอร์ ว่า Smartlipo จะถูกแทรกเข้าไปในบริเวณไขมันที่เป็นเป้าหมายผ่านแผลขนาดเล็ก เส้นใยเลเซอร์ส่งพลังงานความร้อนโดยตรงไปยังเซลล์ไขมันและขัดขวางเนื้อเยื่อไขมันสำหรับการกำจัดได้ง่าย เลเซอร์ละลายไขมันอย่างตรงจุด
ซึ่งจะถูกนำออกด้วยการดูดเบา ๆ ในขณะเดียวกันเนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณนั้นจะกระชับผ่านการแข็งตัวทำให้มีรูปร่างที่เรียบเนียนขึ้น
Smartlipo เหมาะกับ ผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ได้มีน้ำหนักเยอะจนเกินไป แต่มีการสะสมไขมัน เช่น ไขมันที่มีผลทำให้แขนหย่อนยาน หรือไขมันบริเวณลำคอ หรือที่เราเรียกว่าเหนียงนั่นเองค่ะ เหมาะสำหรับใครที่ต้องการดูดไขมันในพื้นที่เล็กๆเป็นอย่างมาก
Smartlipo จะเป็นอีกวิธีที่เป็นตัวเลือกในการดูดไขมันของทุกท่านนะคะ เพราะ Smartlipo จะดูดไขมันด้วยเลเซอร์ หากใครมีปัญหาไขมันตรงตำแหน่งเล็กๆ เช่น คาง คอ ใบหน้า หรือว่าต้นแขน แนะนำว่าให้เลือกวิธีนี้ค่ะ ถ้าหากอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องเลือกวิธีนี้ หรือ ข้อมูลยังไม่จุใจ ท่านสามารถอ่านต่อได้เลยที่ บทความการดูดไขมันแบบ Smartlipo ค่ะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดูดไขมัน Smartlipo มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร บอกได้เลยมีประโยชน์มาก
การดูดไขมันแบบ Pal
การดูดไขมันแบบ Pal ( Power Assisted Liposuction) หรือ Microaire (USA.)เป็นเครื่องมือที่เพิ่มความถี่ของการขยับเข็มดูดไขมัน จำนวนหลายพันรอบต่อวินาที ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่งด้วยการเพิ่มความปลอดภัยของการผ่าตัดที่แม่นยำในจุดที่ยาก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของน้อยที่สุด
ข้อดีของการดูดไขมันแบบ PAL
แพทย์ไม่จำเป็นต้องใช้แรงมากในระหว่างการดูดไขมันเนื่องจาก cannula ที่สั่นสะเทือนจะช่วยปลดปล่อยเซลล์ไขมันออกจากร่างกายเอง
ในการศึกษา นักวิจัยพบว่าไขมันในไขมันถูกกำจัดออกได้ด้วยการดูดไขมันแบบPAL มากกว่าการดูดไขมันด้วยมือถึงร้อยละ 30 ในขณะที่รอยช้ำและระยะเวลาในการฟื้นฟูลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งนี้เลยทำให้การดูดไขมันแบบPAL มีประโยชน์สำหรับการรักษาบริเวณที่ยากต่อการแกะรวมถึงต้นขาด้านใน บริเวณปุ่มท้องและหน้าอกของผู้ชาย เนื่องจากขั้นตอนการดูดไขมันแบบใช้พลังช่วยให้ใช้เวลาในการดำเนินการน้อยกว่าการดูดไขมันด้วยตนเอง ผู้ป่วยอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนและมีความปลอดภัยน้อยกว่า
อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจดูดไขมันจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ เพื่อผลลัพธ์เป็นไปตามคาดหวัง
และการดูดไขมันแบบ PAL นี้ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี และดียิ่งขึ้นถ้าหากดูดร่วมกับ bodytite เพราะดูดไขมันแบบ PA Lมักใช้ในการดูดตำแหน่งที่ค่อนข้างยาก ดังนั้นการกระชับผิวจึงค่อนข้างสำคัญ อ่านต่อบทความที่เจาะลึกของการดูดไขมันแบบ PAL เพื่อเป็นตัวช่วยให้ท่านตัดสินใจเลือกวิธีดูดไขมันได้ง่ายมากยิ่งขึ้นค่ะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ดูดไขมัน PAL มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร บอกได้เลยมีประโยชน์มาก