ดูดไขมัน Water Jet
สาเหตุที่สาวๆหลายท่านให้ความสนใจ หาวิธีต่างๆเพื่อ ” ดูดไขมัน ” กันมากขึ้น คงเป็นสาเหตุมาจากการพบปัญหาไขมันส่วนเกินที่เป็นตัวปัญหาทำให้หนักใจสำหรับคนที่อยากมีรูปร่างที่สวย หุ่นที่ดี โดยที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายบ้างหรือออกกำลังกายแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่ได้ผล หรือใครที่กำลังต้องการกำจัดไขมันและอยากใช้ไขมันที่กำจัดนี้ให้เป็นประโยชน์โดยไม่เสียเปล่า
การดูดไขมันแบบ Water Jet น่าจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถดูดไขมันได้ตามความต้องการที่ดี และถ้าอยากทราบว่าการดูดไขมันแบบ Water Jetแตกต่างจากวิธีอื่นๆยังไง อ่านบทความนี้เลยค่ะ
การดูดไขมัน Water Jet คืออะไร ?
การดูดไขมันแบบ Water Jet ชื่อก็บอกตรงตัวเลยนะคะ ว่าเป็นการดูดไขมันที่ใช้พลังงานน้ำ โดยพลังงานน้ำนี้จะแยกเซลล์ไขมันออกมาจากเนื้อเยื้อผิวหนัง จึงทำให้เซลล์ไขมันมีสภาพที่สมบูรณ์ เป็นไขมันที่ไม่ตาย เราสามารถนำไขมันนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เติมเต็มเพื่อฟื้นฟูในส่วนต่างๆของร่างกายได้
การดูดไขมัน Water Jet เหมาะกับใคร
โดยทั่วไปแล้วสาวๆหลายท่านที่เลือก ” ดูดไขมัน Water Jet ” เพราะต้องการไขมันส่วนเกินเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาด ดังนั้น การดูดไขมันแบบ Water Jet จึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการเสริมหน้าอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและต้องการให้ดูเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนแต่เป็นการใช้ไขมันตัวเองแทน
อีกหนึ่งอย่าง คือ เหมาะกับผู้ที่กลัวเจ็บและไม่ต้องการเจ็บในการศัลยกรรม เพราะวิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัด เพียงแค่ดูดไขมันแล้วนำมาฉีดก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย โดยระยะเวลาพักฟื้นก็แทบจะไม่มี สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อีกทั้งเหมาะกับผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้า เช่น ร่องแก้ม หน้าผาก ใต้ตา ขมับ หรือริ้วรอยต่างๆ ซึ่งสามารถใช้แทนฟิลเลอร์ได้เลย เพระข้อได้เปรียบของไขมันคือโอกาสที่จะแพ้แทบไม่มีเลยค่ะ
ข้อดีและข้อเสียของการดูดไขมัน Water Jet
ว่าด้วยเรื่องข้อดีของการดูดไขมันแบบ Water Jet ก็คือ การดูดไขมันตำแหน่งต้นแขน ต้นขา ด้วยวิธีนี้นั้น จะทำให้ไขมันมีสภาพที่สมบูรณ์และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ เช่น การสกัดเป็นสเต็มเซลล์เพื่อเติมเต็มจุดที่บกพร่องแทนการฉีดฟิลเลอร์นั่นเองค่ะ หรือหลายคนมักนำไขมันไปศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ส่วนข้อเสียของการดูดไขมันแบบ Water Jet คือ อาจมีน้ำหรือไขมันตกค้างได้ แต่ไม่น่าเป็นกังวลค่ะ เพราะยังไงแล้วน้ำก็สามารถระบายออกมาตามจุดที่ทำการผ่าตัดได้
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน
- ท่านจะต้องตรวจสุขภาพ เพราะในการดูดไขมันจะใช้เวลาค่อนข้างนานพอสมควร อย่างเช่น การตรวจเลือดต่างๆ การทำงานของตับ ตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจการติดเชื้อที่อันตรายอย่างเอดส์และไวรัสตับอักเสบบี รวมถึง ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วย
- งดทานอาหารเสริมและยา เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาแก้ปวดต่างๆ ขอแนะนำว่า ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ก่อน ถ้าหากรับประทานยาตัวใดตัวหนึ่งอยู่
- แน่นอนค่ะว่า ต้องเตรียมร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการดูดไขมันใช้เวลานาน การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ไม่เพลียในขณะที่กำลังดูดไขมัน
การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน
หลังจากดูดไขมันแล้ว อย่าลืมว่าจะต้องดูแลสุขภาพควบคู่ไปอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายและเรื่องอาหารการกิน และสิ่งสำคัญหลังดูดไขมันเสร็จ จะต้องใส่ชุดกระชับสัดส่วนในระยะเวลาตามแพทย์สั่ง เพื่อให้เนื้อบริเวณที่ดูดไขมันนั้นกระชับมากยิ่งขึ้น
การดูดไขมันแบบ Water Jet ต้องฉีดยาชาหรือไม่
การดูดไขมันแบบ Water Jet เป็นการดูดไขมันที่อ่อนโยน บาดเจ็บน้อย ไม่ต้องดมยาสลบ แต่ต้องฉีดยาชาเฉพาะที่ การฉีดยาชาจะทำให้ลดความเสี่ยงและลดค่าใช้จ่าย
การดูดไขมันแบบ Water Jet เป็นแผลเป็นหรือไม่
การดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำหรือ Water Jet นี้ ต้องบอกเลยว่าแทบจะไม่เป็นแผลเป็นเลยค่ะ เพราะเป็นการดูดไขมันที่อ่อนโยน นุ่มนวล ไม่เกิดการอักเสบหรือว่ามีพีงผืดใดๆอีกด้วย แถมยังเจ็บน้อยและสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าวิธีอื่นๆ ทั้งนี้ก็ย่อมขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลใส่ใจตนเองด้วยนะคะ
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันเป็นศัลยกรรมที่ค่อนข้างมีความเสี่ยงค่ะ การเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลจึงสำคัญเป็นอย่างมาก
ดังนั้น อันดับแรกที่ต้องตัดสินใจคือ แพทย์ที่จะทำการผ่าตัดดูดไขมันให้กับเราค่ะ ตรวจสอบว่าแพทย์ท่านนั้นๆเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์จริงหรือไม่ และเป็นแพทย์ที่มีใบอนุญาตเปิดสถานพยาบาลที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากทำกับแพทย์และคลินิกที่ไม่น่าเชื่อถือก็อาจเกิดความเสี่ยงและผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้
