ถุงใต้ตามีต้นเหตุเกิดจากอะไร? อยากแก้ปัญหาถุงใต้ตาให้เรียบเนียน ดูสดใสขึ้น ควรทำอย่างไร?

ถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา

ถุงใต้ตา

เพื่อน ๆ คงเคยเห็นถุงใต้ตาบวม ที่ทำให้หน้าของเราดูโทรมและแก่ก่อนวัย แต่อะไรเป็นสาเหตุของปัญหาถุงใต้ตา และเราจะกำจัดมันได้อย่างไร? ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่าถุงใต้ตาเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง รวมถึงคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีลดถุงใต้ตาอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพกันค่ะ


ทำความเข้าใจก่อนว่า ถุงใต้ตา คืออะไร ?

ถุงไขมันที่ทำให้ใต้ตาดูบวม อยู่ตรงใต้ดวงตา หรือเบ้าตาด้านล่าง  คือ ลักษณะของถุงใต้ตา (หรือ Eye bags) ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 5 ถุง ดังข้อมูลข้างล่างนี้ค่ะ

เพื่อน ๆ คนไหนมีปัญหาถุงใต้ตาดูบวมใหญ่ ส่วนที่บวมขึ้นมาจะเป็นถุงกลาง (Middle Fat) รวมถึงถุงไขมันบางส่วนซึ่งอยู่ตรงด้านใน (Inner Fat) 

  • ถุงใต้ตา 2 ถุง อยู่ตรงบริเวณเปลือกตาบน 
  • ถุงใต้ตา 3 ถุง อยู่ตรงบริเวณใต้เปลือกตาล่าง 

ทำไมบางคนจึงมีปัญหา ถุงใต้ตา ?

ถุงใต้ตาเกิดจากหลายปัจจัย เช่น อายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์ ภูมิแพ้ นอนดึกนอนน้อย พันธุกรรม รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม ชอบสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคืออายุที่มากขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นไปตามกาลเวลา และคนที่เป็นภูมิแพ้จนทำให้เกิดถุงใต้ตาหรืออาการบวมที่บริเวณดวงตาได้อีกด้วย

ถุงใต้ตาที่เกิดจากการขยี้ตาบ่อย
ที่มาภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/girl-grey-sweater-crying_13518748.htm

วิธีลดถุงใต้ตาด้วยตัวเองในเบื้องต้น

1.) สูตรมาส์คช่วยลดถุงใต้ตา ด้วยวิธีธรรมชาติ

สูตรสำหรับมาส์กใต้ตาเพื่อลดอาการบวมของถุงใต้ตา วัตถุดิบจากธรรมชาติ หยิบหาได้ง่าย ๆ จากของใกล้ตัวเรา 

วัตถุดิบที่ใช้ทำมาส์คลดถุงใต้ตา

  • เจลว่านหางจระเข้หนึ่งช้อนชา
  • โยเกิร์ตธรรมดาสองช้อนโต๊ะ
  • ผงขมิ้นครึ่งช้อนชา
  • น้ำมันมะกอกครึ่งช้อนชา

วิธีมาส์คใต้ตาด้วยสูตรธรรมชาติ :

  • ผสมเจลว่านหางจระเข้และโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติในชามขนาดเล็ก คนให้เข้ากันจนส่วนผสมเป็นเนื้อเหนียว
  • จากนั้น ใส่ผงขมิ้นและน้ำมันมะกอกลงไปลงในถ้วย คนเพื่อผสมจนทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • ทาส่วนผสมบริเวณใต้ตา ต้องระวังอย่าให้เข้าตา 
  • ทิ้งส่วนผสมไว้บนใบหน้า ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น

2.) ปกป้องใบหน้าและผิวรอบดวงตา ให้ห่างไกลจากแสงแดด

การสวมหมวก แว่นกันแดด และหมั่นทาครีมกันแดด สามารถช่วยปกป้องดวงตาและผิวบริเวณรอบดวงตาของเราจากรังสียูวีได้ 

ครีมกันแดดช่วยป้องกันรังสียูวีที่เป็นอันตราย การสวมหมวกปีกกว้าง จะช่วยบังดวงตาของเราจากแสงแดดโดยตรง การใส่แว่นกันแดดจะป้องกันรังสียูวีที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังช่วยดูดซับพลังงานความร้อนจากแสงแดด เพื่อปกป้องผิวรอบดวงตาจากการโดนแสงแดดทำร้าย ป้องกันการเกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ และถุงใต้ตาได้ในระยะยาวค่ะ

3.) ลดถุงใต้ตาด้วยการประคบเย็น

ประคบเย็นด้วยแตงกวาช่วยลดถุงใต้ตา
ที่มาภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/natural-homemade-fresh-cucumber-facial-eye-pads-facial-masks-asian-woman-holding-cucumber-pads-smile-relax-with-natural-homemade_26565883.htm

ลองใช้ช้อนแช่ตู้เย็น หรือฝานแตงกวาเป็นแว่นแช่เย็นไว้ให้ชิ้นแตงกวาเย็นฉ่ำ แล้วใช้ช้อนหรือแตงกวามาประคบเปลือกตา หลับตาผ่อนคลายทิ้งไว้สักประมาณ 15-20 นาที สามารถทำได้บ่อยเท่าที่มีเวลาว่างในแต่ละสัปดาห์ หลอดเลือดตรงใต้ตาจะเกิดการหดตัวจากอุณหภูมิที่เย็นของช้อนและแตงกวา อาการถุงใต้ตาบวม ความหมองคล้ำใต้ตาจะค่อย ๆ บรรเทาลงได้ค่ะ แต่อาจต้องใช้ความขยันทำอย่างสม่ำเสมอจึงจะเริ่มเห็นผล

4.) สัมผัสผิวใต้ตาอย่างเบามือ เลิกพฤติกรรมชอบขยี้ตา

สัมผัสผิวใต้ตาอย่างเบามือเพื่อป้องกันการเกิดถุงใต้ตา
ที่มาภาพจาก https://www.freepik.com/free-photo/young-woman-gently-touching-soft-hydrated-skin-face-applying-moisturizing-cream-skincare-cosmetics-wearing-natural-make-up-standing-with-naked-shoulders-white-wall_19294523.htm

การดูแลผิวใต้ตาสามารถช่วยลดถุงใต้ตาได้ การดูแลตัวเองง่าย ๆ อย่างเช่น งดการถู ขยี้ตา หรือดึงที่ผิวหนังใต้ตา  เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เนื้อเยื่อใต้ตาอันบอบบางเกิดความเสียหาย และทำลายคอลลาเจนก่อนเวลาอันควร เมื่อหยุดพฤติกรรมรุนแรงกับผิวใต้ตาได้แล้ว ควรหันมาดูแลผิวรอบดวงตาอย่างสม่ำเสมอ เช่น 

การทำตามขั้นตอนพิเศษเพื่อปกป้องผิวใต้ตาจากปัจจัยกดดันจากสิ่งแวดล้อมยังสามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ของถุงได้ เช่น การใช้อายครีม ทาครีมกันแดดสำหรับผิวใต้ตาโดยเฉพาะ นอกจากนี้ การพักผ่อนให้เพียงพอและการดื่มน้ำมากๆ ยังช่วยให้บริเวณนั้นชุ่มชื้นและเต่งตึงได้ด้วย


รักษาถุงใต้ตา ด้วยวิธีทางการแพทย์มีวิธีไหนให้เลือกบ้าง?

H3: ลดถุงใต้ตาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การรักษาถุงใต้ตาให้เห็นได้น้อยลง ลดถุงใต้ตาให้ดูเรียบเนียนขึ้น แพทย์จะรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยเฉพาะในคนที่อายุมาก ฟิลเลอร์จะไปช่วยเติมบริเวณการยุบตัวของชั้นกระดูกใต้ตา ซึ่งเป็นอาการที่เกิดได้ตามวัยที่เพิ่มขึ้น ผิวที่เคยเกาะอยู่ตรงใต้ตาจะค่อย ๆ หย่อนคล้อยลงมาด้านล่าง จนกระทั่วใต้ตาเป็นก้อนขนาดใหญ่

ฉีดฟิลเลอร์-ลดถุงใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รักษาถุงใต้ตาบวม

ฉีดฟิลเลอร์ลดถุงใต้ตา มีข้อดีอะไรบ้าง

  • การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่สะดวก รวดเร็ว คนไข้ไม่เจ็บตัวเยอะ ไม่ต้องลางาน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ เพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่เป็นแผลเป็น 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ลดถุงใต้ตาสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีว่าใต้ตาดูเนียนเรียบขึ้น
  • การฉีดฟิลเลอร์คือหัตถการที่ช่วยแก้ได้หลากหลายปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวใต้ตา เช่น
  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการ
  • ช่วยลดถุงใต้ตา ช่วยลดรอยหมองคล้ำบริเวณใต้ตา แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยใต้ตา แก้ปัญหาใต้ตาลึก ตาโบ๋ รวมถึงช่วยแก้ไขร่องใต้ตาให้กลับมาดูเรียบเนียน

ฉีดฟิลเลอร์ลดถุงใต้ตา มีข้อเสียอะไรบ้าง

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะค่อย ๆ สลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัยมาก แต่ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้ไม่ถาวร ต้องกลับมาเติม filler เรื่อย ๆ หากต้องการรักษาผลการรักษาไว้ให้อยู่ได้นาน ๆ 

การเลือกฉีดฟิลเลอร์ลดถุงใต้ตา ยังต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ จึงจะมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์อย่างคุ้มค่าค่ะ

ลดถุงใต้ตาบวมโดยการใช้คลื่นวิทยุ หรือ Radio Frequency (RF)

ข้อดีของการทำ RF ลดถุงใต้ตา

  • Thermage ลดถุงใต้ตาคือ การใช้คลื่นวิทยุช่วยรักษาผิวใต้ตา เพิ่มความกระชับ ลดไขมันสะสมตรงถุงใต้ตาให้สลายออกไป เทอร์มาจคืออีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยลดปัญหาถุงใต้ตาโดยไม่ต้องเจ็บตัวเยอะแบบการผ่าตัด มิต้องใช้เข็มฉีดยา ส่วนผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการรักษาถุงใต้ตาด้วยวิธีนี้อาจเห็นผลเพียงเล็กน้อยค่ะ

ข้อเสียของการทำ RF ลดถุงใต้ตา

รักษาถุงใต้ตาด้วยเครื่อง RF มีราคาค่อนข้างสูง 

  • อาจไม่คุ้มค่าเท่าไรนักสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาค่อนข้างเยอะ
  • Radio Frequency ช่วยได้เพียงกระชับผิวบริเวณใต้ตา แต่หากคาดหวังว่าถุงใต้ตาจะหายขาด ก็อาจไม่เหมาะที่จะเลือกใช้วิธีทำ RF 

ลดถุงใต้ตาด้วยการทำ Hifu Ultraformer

ใครที่กลัวเจ็บ กลัวเข็มมากจนไม่กล้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อีกหนึ่งทางเลือกก็คือการทำ Hifu Ultraformer ที่จะช่วยลดไขมันตรงถุงใต้ตาได้บางส่วน, ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้ตาได้ แม้จะไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่ากับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็ตาม ซึ่งนวัตกรรมไฮฟู่นี้เป็นการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ ยิงลงไปยังชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อให้เกิดการหดตัว ช่วยยกกระชับผิวบริเวณที่ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ค่ะ

ข้อดีของการทำ Hifu Ultraformer ลดถุงใต้ตา

สำหรับคนที่อยากเห็นผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ก็สามารถกลับมาทำไฮฟู่ใต้ตาได้อีกเรื่อย ๆ เพราะยิ่งทำ ก็ยิ่งเห็นผลที่ดีขึ้นไปอีก ช่วยลดถุงใต้ตาโดยไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด สะดวกรวดเร็ว เวลาที่ใช้ในการทำไม่นาน หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องลางาน

ข้อเสียของการทำ Hifu Ultraformer

เพื่อความปลอดภัย ทำแล้วเห็นผลจริง เราควรเลือกทำ Hifu ลดถุงใต้ตากับคุณหมอที่มีประสบการณ์ เพราะบริเวณใต้ตาคือจุดที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษในการยิงไฮฟู่ และต้องใช้ความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมากค่ะ

ทำ Hifu Ultraformer ใต้ตา รีวิว

ลดถุงใต้ตาบวม ด้วยการผ่าตัด

ข้อดีของการผ่าตัดลดถุงใต้ตา

คนที่มีปัญหาถุงใต้ตาแท้ ถุงใต้ตาค่อนข้างเยอะ การผ่าตัดเพื่อกำจัดถุงใต้ตาคือวิธีรักษาที่ตรงจุด ผ่าตัดแล้วเห็นผลชัดเจน  คุณหมอจะช่วยเก็บผิวหนังบริเวณส่วนเกินออกได้ โดยใช้เลเซอร์หรือมีดผ่าตัด 

ข้อเสียของการผ่าตัดลดถุงใต้ตา

การผ่าตัดถุงใต้ตาจะมีขั้นตอนของการวางยาสลบ มีความเสี่ยง รวมถึงมีแผลหลังจากกรีดถุงไขมันใต้ตาออกไป ในคนไข้บางเคสเกิดเป็นร่องลึกตรงใต้ตาแทน แม้ว่าปัญหาถุงใต้ตาบวมจะหายไปได้ เพราะเข้ารับการผ่าตัดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ไม่มากเพียงพอ จนเกิดปัญหาใหม่คือใต้ตาลึกจนหน้าดูเหนื่อย ดูโทรมลงค่ะ

การผ่าตัดลดถุงใต้ตา
การผ่าตัดเพื่อนำไขมันใต้ตาออก คือหนึ่งในวิธีรักษาถุงใต้ตา

การดูดไขมัน เพื่อลดถุงใต้ตา

คนไข้ที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวหนังยังไม่มากนัก เพียงแต่มีถุงใต้ตาไขมันนูนออกมา อาจจะเลือกวิธีดูดไขมันใต้ตาเพื่อลดขนาดถุงใต้ตาให้ดูเล็กลง

ข้อดีของการดูดไขมัน ลดถุงใต้ตา

  • มีเพียงแผลขนาดเล็กด้านในเปลือกตา เพราะคุณหมอจะผ่าตัดแบบแผลด้านใน ไม่ต้องตัดไหม และจะไม่มีแผลปรากฎให้เห็นอยู่ด้านนอกเปลือกตาค่ะ 

ข้อเสียของการดูดไขมันใต้ตา

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีหนังตาหย่อนคล้อย เพราะถ้าเลือกวิธีดูดไขมันลดถุงใต้ตา จำเป็นต้องตัดหนังตาบริเวณที่หย่อนออกไปด้วย หากทำโดยหมอที่ไม่มีความชำนาญ มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการอักเสบ ติดเชื้อ และหนังตาปลิ้น

สรุป

ปัญหาถุงใต้ตาอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดใจ แต่ความอดทนและวินัยในการดูแลตัวเองคือสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อรักษาถุงใต้ตาให้ดูดีขึ้นแล้ว เรายังควรรักษาสุขภาพผิวใต้ตาด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด ทาอายครีมและครีมกันแดดเป็นประจำ ดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการนอนดึก เพื่อช่วยรักษาผิวใต้ตาให้ห่างไกลจากความหมองคล้ำที่น่ารำคาญใจไปได้นาน ๆ และทำให้เรากลับมามีดวงตาที่สดใสอีกครั้งค่ะ