หนานเฉาเหว่ย
หนานเฉาเหว่ย หรือ ป่าช้าเหงา คือ สมุนไพรจากที่มีถิ่นกำเนิดจากเมืองจีน ได้เข้ามาในประเทศไทยเมื่อประมาณ 10 – 20 ปีก่อน ผู้สูงอายุนิยมรับประทานเพื่อช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต และอาการเจ็บป่วยต่างๆ โดยใช้ทดแทน หรือทานควบคู่ไปกับการทานยาจากโรงพยาบาล ฟังสรรพคุณแล้วดูดีแบบครอบจักรวาล แต่จริงๆ แล้วจะมีสรรพคุณดีจริงหรือไม่ กินแล้วจะมีอันตรายอย่างไร วันนี้เรามาหาคำตอบกันค่ะ
ขอขอบคุณรูปจาก : thairath.co.th
หนานเฉาเหว่ย คืออะไร?
หนานเฉาเหว่ย หรือชื่อไทยว่า ต้นป่าช้าเหงา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vernonia amygdalina เป็นพืชกลุ่มเดียวกันกับฟ้าทลายโจร และพญายอ นิยมปลูกเพื่อนำมารับประทานเป็นสมุนไพร มีสรรพคุณป้องกันและบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน ความดันในเลือดสูง โรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังบางโรคได้ โดยส่วนที่นำมาทานเพื่อรักษาโรค คือ ใบสด ซึ่งมีรสขมจัด
หนานเฉาเหว่ย รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
หนานเฉาเหว่ย เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ที่มีความสูงตั้งแต่ 3 ถึง 7 เมตร มักพบในป่าเบญจพรรณและป่าดงดิบที่มีความสูงไม่เกิน 600 เมตร ลักษณะใบเดี่ยวรูปทรงรี ปลายแหลม เรียงสลับ ขนาดของใบมีได้ตั้งแต่ ใบเล็กขนาด 3 X 9 เซนติเมตร ไปจนถึงใบใหญ่ขนาด 8 X 22 เซนติเมตร ช่อดอกมีลักษณะสั้น
ดอกตัวผู้จะเป็นสีเหลืองอ่อนหรือเขียวอ่อน กลิ่นหอมและมีขนาดเล็ก มีกลีบรองดอก 5 กลีบ มีเกสรอยู่มาก แต่จะไม่มีกลีบดอก ผลกลมเกลี้ยงมีขนาดเล็กประมาณ 2 เซนติเมตร และแบ่งเป็นพูเล็ก ๆ 3 พู ขณะผลยังอ่อนอยู่จะมีเนื้อสีเขียว เมื่อผลแก่จัดจึงจะมีเนื้อสีเหลืองแสด ซึ่งส่วนที่นิยมใช้มาทำเป็นยาคือส่วนของใบ โดยนำมากินแบบสด ๆ หรือต้มกับน้ำเพื่อนำมาดื่ม
หนานเฉาเหว่ย หรือ ป่าช้าเหงา กับงานวิจัย
งานวิจัยพบว่า หนานเฉาเหว่ย หรือ ป่าช้าเหงา เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์แรง เมื่อนำใบมาสกัดเป็นน้ำพบว่ามีผลดีต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ในแง่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในขณะที่บางงานวิจัยและการทดลองแสดงให้เห็นว่า ป่าช้าเหงาช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเชื้อมาลาเรีย ช่วยลดน้ำตาลในเลือด และมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ แต่งานวิจัยส่วนใหญ่จะทดลองกับสัตว์ทดลองและในหลอดทดลองเท่านั้น
ส่วนการทดลองเรื่องความความเป็นพิษของสมุนไพรหนานเฉาเหว่ยในสัตว์ทดลอง พบว่า เมื่อป้อนผงใบและสารสกัดเมทานอลให้แก่หนูแรท ด้วยขนาด 100 – 1,000 มิลลิกรัม/วัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 28-65 วัน ปรากฏว่าไม่พลความผิดปกติในตับและไต แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่พบรูปแบบการวิจัยถึงรูปแบบและขนาดอันเหมาะสมในมนุษย์ และการค้นคว้าถึงความเป็นพิษในกรณีที่กินอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
หนานเฉาเหว่ย มีสรรพคุณดีอย่างไรบ้าง
หนานเฉาเหว่ย มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบและอาการปวดได้ เป็นพืชตระกูลเดียวกับฟ้าทะลายโจร พญายอ โดยข้อมูลจากสมุนไพรอภัยภูเบศร อธิบายว่า หนานเฉาเหว่ยมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ดังนี้
- ลดระดับน้ำตาลในเลือด จากงานวิจัยทดลองใช้หนานเฉาเหว่ยในสัตว์ทดลอง พบว่าออกฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็ว โดยจะช่วยลดระดับความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสที่อยู่ในกระแสเลือดทั้งในคนที่เป็นโรคเบาหวานและในคนปกติ ซึ่งวิธีใช้คือสามารถเคี้ยวกินใบหนานเฉาเหว่ยแบบสด ๆ ได้เลย ซึ่งควรพิจารณาเฉพาะใบที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป คือ เลือกกินใบที่ขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ ควรล้างให้สะอาดก่อน และไม่ควรกินมากเกินวันละ 3 ใบ เพราะอาจส่งผลให้น้ำตาลตก จนมีอาการหน้ามืด ใจสั่น หมดเรี่ยวแรง จนถึงหมดสติ และอาจช็อคได้
- ลดระดับไขมันในเลือด จากผลงานวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่า หนานเฉาเหว่ยสามารถลดไขมันในกระแสเลือดได้ประมาณ 20% และสามารถเพิ่มปริมาณไขมันตัวดีในเลือดอีกด้วย จึงคาดว่าน่าจะสามารถใช้ในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจได้ด้วย
- ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน
- ลดความดันโลหิต จากงานวิจัยพบว่า หนานเฉาเหว่ยมีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ เนื่องมาจากมีฤทธิ์ช่วยขยายหลอดเลือด และช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
- ป้องกันโรคมะเร็ง จากผลการทดลองพบว่า หนานเฉาเหว่ยมีฤทธิ์ต่อต้านเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว เซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งอัณฑะ และมะเร็งหลังโพรงจมูกได้ โดยสามารถเหนี่ยวนำเซลล์มะเร็งให้ฝ่อลงและตายไปในที่สุด ทั้งนี้ควรใช้อย่างระมัดระวังเพราะเป็นเพียงผลการทดลองในหลอดทดลองเท่านั้น
- ปกป้องไต จากการทดลองใช้หนานเฉาเหว่ยในหนู พบว่า หนูมีค่าการทำงานของไตดีขึ้นหรือปกติ เมื่อเทียบกับหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นโรคเบาหวานแล้วไม่ได้รับสารสกัดจากหนานเฉาเหว่ย
หนานเฉาเหว่ย ป่าช้าเหงา กับสรรพคุณตามตำรับยาพื้นบ้าน
เนื่องจากสมุนไพรป่าช้าเหงาอุดมไปด้วยสารฟลาโวนอยด์ อันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถลดการอักเสบ และช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งในทางตำรับยาพื้นบ้าน มีสรรพคุณดังนี้
- ใบ ช่วยในการบำรุงร่างกาย เนื่องจากมีสรรพคุณปกป้องตับ (แต่ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคตับทาน) มีรสขม
- ส่วนราก ใช้ แก้โรคผิวหนัง รักษาอาการน้ำเหลืองเสีย บรรเทาอาการคันตามผิวหนัง แก้พิษในกระดูก และแก้ลม
- เปลือกไม้ แก้โรคตับ/ปอดพิการ แก้อาการลมเป็นพิษ แก้โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ออกฤทธิ์เป็นยาระบาย หรือยาถ่าย ใช้แก้โรคเหงือกอักเสบ ใช้ถ่ายพยาธิ รักษาโรคเรื้อน คุดทะราด และกามโรค
วิธีการกินสมุนไพรหนานเฉาเหว่ยให้ปลอดภัย
- กินเป็นอาหาร นำใบป่าช้าเหงามาลวกน้ำร้อนก่อนรับประทาน เพื่อช่วยลดความขมในใบและช่วยลดฤทธิ์ยาลงได้ วันละไม่เกิน 3-5 ใบแล้วนำมาทำห่อหมกโดยใช้รองกระทงห่อหมกแทนใบยอ นำมาใช้เป็นส่วนผสมในยำดอกขจร ซึ่งคนพื้นบ้านมักจะกินเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันความเจ็บป่วย ในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่มีการเปลี่ยนฤดูกาล
- กินเป็นยาป้องกันและรักษาโรค ) เคี้ยวกินใบสด วันละไม่เกิน 3 ใบ อาจกินวันเว้นวัน หรือแค่ 2-3 วันกินที 2.) อีกแบบหนึ่งคือต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่ม โดยใช้ใบขนาดเท่าฝ่ามือ 3 ใบ ต้มในน้ำ 1 ลิตร เป็นเวลา 3-5 นาทีพอเดือด ดื่มที่ปริมาณ 250 มิลลิลิตร โดยดื่มตอนตื่นนอน ช่วงก่อนทานอาหารเช้า เพียงวันละ 1 ครั้ง 3.) บางท่านอาจทานใบแห้งที่อยู่ในรูปแบบของชา ใช้ใบหนานเฉาเหว่ยตากแห้ง ในปริมาณ 1-2 กรัม นำมาชงในน้ำร้อน ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วดื่มชา ในช่วงเวลาก่อนอาหาร เช้า เย็น ทั้งนี้ไม่ควรกินทุกวัน หรือกินอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากป่าช้าเหงามีฤทธิ์เป็นยาเย็น
ขอขอบคุณรูปจาก : เฟซบุค อภัยภูเบศร
หนานเฉาเหว่ย อันตรายไหม โทษ และข้อควรระวังในการกิน
- ผู้ที่ไม่ควรกินหนานเฉาเหว่ย คือ ผู้ที่มีความดันโลหิตต่ำ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หญิงที่กำลังให้นมบุตร และผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับหรือไต
- ในผู้ที่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด คุมความดันโลหิตได้ดีอยู่แล้ว ไม่ควรทานหนานเฉาเหว่ยเป็นยา หรือหยุดกินยาแผนปัจจุบันแล้วหันมากินหนานเฉาเหว่ยเพียงอย่างเดียว เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำตาลต่ำหรือความดันตกจนเกิดอันตรายได้ หากจะกินหนานเฉาเหว่ยอาจกินเป็นครั้งคราวเพื่อบำรุงร่างกายเท่านั้น
- ผู้ป่วยไม่ควรหยุดทานยาแผนปัจจุบัน ไม่ควรขาดการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน ทั้งนี้หากกินหนานเฉาเหว่ยแล้วเกิดมีอาการผิดปกติ เช่น น้ำตาลตก ความดันตก หน้ามืด ใจสั่น วิงเวียน ใจสั่น เหงื่อกออกมากผิดปกติ จะต้องหยุดกินทันที
- ผู้ป่วยโรคเลือดจาง ควรระมัดระวังในการกินหนานเฉาเหว่ย เพราะในบางรายงานพบฤทธิ์ที่ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงแตก
- ชายวัยเจริญพันธุ์ ควรระมัดระวังการกินหนานเฉาเหว่ยติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากมีผลการวิจัยในหนูเพศผู้ พบว่า การใช้อย่างเข้มข้นหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจเป็นพิษต่ออัณฑะได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Youtube Channel : ThaiPBS
สุดท้ายนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรก่อนทุกครั้งที่จเริ่มใช้สมุนไพรหนานเฉาเหว่ย รวมทั้งควรศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วย ผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งควรระมัดระวังเป็นพิเศษ