ร้อยไหม กี่วันเห็นผล
ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ยังคงเป็นคำถามที่หลายคนยังสงสัยอยู่ เนื่องจากต้องการให้ใบหน้าเข้ารูป ยกกระชับขึ้นเร็ว ๆ หลังจากที่ตัดสินใจเข้ารับการร้อยไหมแล้ว รวมทั้งข้อสงสัยอื่น ๆ อีกเช่น หลังร้อยไหมต้องปฏิบัติตัวอย่างไร? ร้อยไหมอยู่ได้นานกี่ปี? ไหมแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร? เรามาไขข้อข้องใจกันได้ในบทความนี้เลยครับ
ร้อยไหม กี่วันเห็นผล?
คนจำนวนไม่น้อยยังคงสงสัยอยู่ว่า ร้อยไหม กี่วันเห็นผล? ต้องรอนานไหม? เนื่องจากร้อยไหมไปแล้วก็อยากให้หน้าเรียวสวยไวๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำการร้อยไหม และจะค่อยๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นตามลำดับ
ไหมเงี่ยงหรือที่หลายคนเข้าใจว่าคือไหมก้างปลา คือไหมที่หมอใช้ในปัจจุบัน โดยคุณสมบัติเด่นของไหมก้างปลา คือ สามารถยกกระชับแก้มที่หย่อนคล้อยได้ทันที เพราะเมื่อทำการร้อยไหมลงในชั้นผิว ตัวเงี่ยงไหมที่มีลักษณะคล้ายตะขอจะดึงผิวขึ้น
(การร้อยไหมยกกระชับใบหน้าด้วยไหมละลาย เป็นวิธีที่ได้ผลดี รวดเร็ว)
อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเล็กน้อยหลังการร้อยไหม โดยประมาณ 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น ทั้งนี้ อาการบวมจะยุบลงได้เองภายในช่วงเวลา 14 วัน และใบหน้าจะเข้าที่ได้รูปชัดเจนในช่วงประมาณ 1 เดือน
สำหรับผู้ที่ร้อยไหมไปแล้ว 4 วัน แต่กลับมีอาการบวมแดงมากขึ้น แนะนำให้รีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมินอาการ และรับประทานยาแก้ปวด ลดบวมเพิ่ม
หลังร้อยไหมอยู่ได้นานกี่ปี?
ไหมแต่ละชนิดจะมีอายุการใช้งาน ที่อยู่ได้นานแตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 1 ปี โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.PDO (Polydioxanone) จะสามารถประคองผิวได้ 4-5 เดือน
2.PLLA (Polylactate) จะสามารถประคองผิวได้ประมาณ 18-24 เดือน
3.PCL (Polycaprolactone) จะสามารถประคองผิวได้ประมาณ 1 ปี
การร้อยไหมจะอยู่ได้นานเพียงใดนั้น นอกจากประเภทของไหมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ลักษณะผิว การปฏิบัติตัว และลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละคน
ในบางกรณีที่โครงสร้างผิวขาดคอลลาเจนและขาดอีลาสตินมาก ๆ แรงการยกพยุงจะมีน้อยลง ส่งผลให้ผิวไม่เกาะกับเส้นไหม อายุการใช้งานของการร้อยไหมจึงสั้นลงตามไปด้วย
หากผู้ที่ต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น สามารถร้อยไหมเพิ่มตามได้ในภายหลัง
เนื่องจากหลังจากร้อยไหมรอบแรกไปแล้ว ผิวจะมีการสร้างอีลาสตินขึ้นมาแล้ว การร้อยไหมซ้ำอีกครั้ง จะช่วยให้ผิวเกาะเส้นไหมได้มากขึ้น อายุการใช้งานจึงมากขึ้น
(ตัวอย่างวัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมก้างปลา ไหมที่ดีที่สุด ละลายช้าอยู่ได้นาน )
ความแตกต่างของไหมแต่ละชนิด ไหมแบบไหนอยู่ได้นานที่สุด
ไหมละลายที่ปลอดภัยสำหรับการร้อยไหมในปัจจุบัน มีวัสดุให้เลือกด้วยกัน 3 ชนิด ผ่านการรับรองจาก FDA ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัย ได้แก่ ไหม PDO PLLA และ PCL โดยมีจุดเด่นแตกต่างกันไป
1.PDO (Polydioxanone) มีจุดเด่นคือ มีความยืดหยุ่นสูง และเป็นที่นิยมมากที่สุด
2.PLLA (Polylactate) มีจุดเด่นคือ ความแข็ง แต่ก็มีข้อเสียคือเปราะหักง่าย
3.PCL (Polycaprolactone) มีจุดเด่นคือ ความยืดหยุ่น เส้นใหญ่ที่สุด ไหมก้างปลาเส้นใหญ่ เงี่ยงใหญ่ ละลายช้า อยู่ได้นานขึ้น โดยในปัจจุบันนี้ไหมชนิด PCL มีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย จึงส่งผลให้ ณ ตอนนี้ ไหม PCL ถือเป็นเส้นไหมที่มีวัสดุที่ดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูล: ร้อยไหมอะไรดีที่สุด? ร้อยไหมแต่ละชนิดต่างกันอย่างไร? | V Square Clinic
จาก Youtube Channel: V Square Clinic
ที่ V Square Clinic ในการร้อยไหมจะใช้ไหมอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ ไหม PCL (Polycaprolactone) อยู่ได้นานถึง 1 ปี และไหม PDO (Polydioxanone) อยู่ได้ประมาณ 4-5 เดือน เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง ปลอดภัย อยู่ได้นาน จึงมีความคุ้มค่ามากที่สุด
ทำไมแต่ละคนร้อยไหมแล้วอยู่ได้นานไม่เท่ากัน
ในแต่ละคนนั้นผลลัพธ์จากการร้อยไหมอาจจะมีความแตกต่างกัน บางคนอยู่ได้ 3-4 เดือน บางคนอยู่ได้นาน 6 เดือน บางคนอยู่ได้นานเป็นปี ซึ่งเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- ชนิดของไหมที่ใช้ แต่ละชนิดมีอายุการใช้งานแตกต่างกัน การเลือกใช้ไหมชนิด PCL ,PLLA หรือ PDO ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมที่หมอประเมินก่อนการรักษา โดยคนไข้แต่ละรายอาจใช้ไหมคนละชนิดกัน
(ความแน่นของสภาพผิวเดิมมีอีลาสตินอยู่มาก ช่วยไหมผิวเกาะกับไหมได้ดี ผลการร้อยไหมจึงอยู่ได้นานขึ้น)
- สภาพผิวเดิมของคนไข้ ก่อนทำการร้อยไหม ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการร้อยไหมว่าอยู่ได้นานมากแค่ไหน
หากผิวหน้าเดิมคนไข้มีความแน่นของผิว หรือมีอีลาสติน (elastin) มากเพียงพอก็จะส่งผลให้ผลอยู่ได้นานมากขึ้น
ส่วนในบางรายที่ผิวขาดอีลาสติน โดยเฉพาะในคนที่อายุมาก ส่งผลให้เงี่ยงไหมเกาะอยู่ได้ไม่นาน
- การสร้างอีลาสติน ในคนไข้บางรายแม้เส้นไหมจะละลายไปแล้ว แต่หากเนื้อเยื่อมีการสร้าง elastin ขึ้นมามาก ก็จะสามารถช่วยประคองผิว ผิวคงความกระชับ ผลจึงอยู่ได้นานขึ้น
(การร้อยไหมสามารถกระตุ้นการสร้าง elastinได้มาก ช่วยให้ผลการร้อยไหมอยู่ได้นานขึ้น)
ข้อปฏิบัติตัวหลังจากการร้อยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้น
ควรดูแลตนเองหลังร้อยไหม ทั้งเรื่องของการปฏิบัติตัวและการรับประทานอาหาร โดยหลังทำการร้อยไหมในช่วงแรก ไม่ควรอ้าปากกว้าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงการดึงรั้งของเส้นไหมในผิว เช่น การอ้าปากทำฟัน หรือ การแปรงฟันแรง ๆ ในระยะเวลา 1 เดือน
ในระยะ 14 วันหลังทำ หรืออย่างน้อย 48 ชั่วโมง ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่ ที่เป็นตัวการทำร้ายผิวให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น และควรงดนวดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์ เพื่อป้องกันการอักเสบ ลดอาการบวม
นอกจากนี้ หมอแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ วันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยรักษาสภาพผิวให้มีความชุ่มชื่น สุขภาพดี เต่งตึงอยู่เสมอ
ข้อสงสัยที่ว่า ร้อยไหม กี่วันเห็นผล? หวังว่าคงจะได้คำตอบเพื่อใช้ช่วยประกอบการตัดสินใจกันได้แล้ว ทั้งนี้ หากยังต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผลการรักษาเพิ่มเติม สามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ที่ชำนาญการร้อยไหมได้โดยตรง เพื่อความมั่นใจมากขึ้นครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.vsquareclinic.com/
