ฉีดโบท็อกลิฟหน้าดีไหม
การฉีดโบท็อกลดกราม มักเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ผู้คนต่างนึกถึงเมื่อต้องการปรับรูปหน้า เพื่อให้เรียวสวย ซึ่งการฉีดโบท็อกลดกรามเหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อกรามเท่านั้น หากแต่ยังมีวิธีการ ลิฟกรอบหน้า ที่คนจำนวนไม่น้อยยังคงไม่ทราบว่า สามารถช่วยให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น ดูคม ได้เช่นกัน
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า คือ การฉีด botox ด้วยวิธีการฉีดที่บริเวณกรอบหน้า และใต้คาง เพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณส่วนคอ และเพื่อให้ส่งผลในการดึงแก้มให้น้อยลง และยกกระชับหน้า (ลิฟท์หน้า) ให้ดูคมชัดมากยิ่งขึ้น
ฉีดโบท็อกลิฟหน้า คืออะไร หลังฉีดกี่วันจึงเห็นผล ?
การฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้า คือ การใช้เทคนิคพิเศษในการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซิน (Botox toxin) เฉพาะบริเวณกรอบหน้า เพื่อให้ผิวหน้าเกิดการยกกระชับมากขึ้น และเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้า โดยหลังฉีดประมาณ 2 สัปดาห์จะสามารถเห็นผลได้ชัดเจน ทั้งนี้ เทคนิคการฉีดจะมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้
- Dermolift เป็นการฉีดที่บริเวณแนวกรอบหน้าขึ้นไปทางด้านบน เพื่อช่วยให้ผิวกระชับขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน เหมาะที่จะทำเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องการเห็นผลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ควรฉีดด้วยวิธีนี้บ่อย ๆ เนื่องจากจะไปเพิ่มโอกาสในการดื้อโบท็อกได้ในอนาคตครับ
- Nefertiti lift เป็นการฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อตรงบริเวณลำคอ (Platysma)
อันเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลงทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย หลังจากฉีดโบท็อกแล้วจะส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น เนื่องจาก
จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวขึ้นมีแรงมากกว่า ผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 3-4 เดือน
Botox Lift หน้า ต้องใช้โบท็อก กี่ ยูนิต?
การฉีด Botox lift หน้า สามารถทำได้ในคนไข้หลากหลายช่วงอายุ และยังเป็นเทคนิคที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับใบหน้าในระยะยาวได้อีกด้วย Botox Lift หน้า โดยปกติแล้วจะใช้โบท็อกในการฉีดประมาณ 30-50 ยูนิต (Unit) ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาของคนไข้แต่ละราย
ควรดูแลตัวเองอย่างไร หลังฉีดโบท็อก ลิฟกรอบหน้า
- ควรงดการทำซาวน่า โยคะร้อน การทำเลเซอร์ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อก
- ห้ามนวดหน้า หรือกด ในบริเวณที่ทำการฉีด
- 3-4 ชั่วโมงหลังฉีด ควรงดนอนราบ
- 2 สัปดาห์หลังฉีด ควรละเว้นเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ เป็นเวลา (แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ควรเว้นอย่างน้อย เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีด)
ข้อเสียของการฉีดโบท็อก ลิฟหน้า มีอะไรบ้าง?
การลิฟกรอบหน้าด้วยโบท็อก ย่อมจะไม่มีข้อเสียหรือความเสี่ยงที่ต้องกังวลใจ หากเลือกฉีดกับแพทย์จริง ๆ และทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน หากจะมีบ้าง ก็อาจจะเป็นเรื่องการออกฤทธิ์ของโบท็อกที่จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ในมุมมองของบางคน อาจจะมองว่าอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งต้องมาฉีดซ้ำถ้าต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ให้ดีดังเดิม
ที่สำคัญอีกอย่างคือ ระวังการไปเจอกับโบท็อกปลอม เพราะหากฉีดไปแล้วจากข้อดีอาจกลายเป็นข้อเสียแทนได้ ดังนั้น ก่อนฉีด botox ทุกครั้งคนไข้จึงควรระวังและตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ แต่อาจมีบางคลินิกที่ไม่ได้ผสมยาให้คนไข้ดูต่อหน้า แม้จะใช้โบท็อกของแท้ ก็จะไม่รู้ว่ามีการผสมน้ำเกลือเข้าไปมากหรือน้อยเพียงใด เช่นนี้อาจทำให้ฉีดไปแล้วได้ผลน้อย หรืออาจไม่ได้ผลเลยก็เป็นได้
อันตรายจากการลิฟกรอบหน้า หากใช้โบท็อกปลอม
- ทำแล้วไม่ได้ผลหรือหมดฤทธิ์ไปอย่างรวดเร็ว ฉีดโบท็อกแล้วกรามไม่ลง หน้าไม่ตึง
- กรณีที่ผลการฉีดหมดฤทธิ์ไว ทำให้ต้องฉีดบ่อยขึ้น และมีความเสี่ยงต่อการดื้อยาในอนาคต
- ปากเบี้ยว หนังตาตก เนื่องจากตัวยากระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดอื่น
- เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ เนื่องมาจากตัวยาไม่บริสุทธิ์
- จนถึงปัจจุบันนี้การดื้อโบท็อก ก็ยังคงเป็นภาวะที่ไม่มีทางรักษาหายได้
ฉีดโบท็อกลดกรามแล้ว ทำไมเหนียงเยอะขึ้น
การฉีดโบท็อกลดกรามเพียงอย่างเดียวนั้น อาจจะทำให้ผิวหนังหย่อนลงได้หลังจากกรามยุบลงแล้ว จึงมีผลให้หนังบริเวณลำคอดูเยอะขึ้น จึงมีคำแนะนำจากคุณหมอว่า ควรทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า ควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกลดกราม เพื่อช่วยให้ใบหน้าไม่หย่อนคล้อย และกรอบหน้าสวยเข้ารูปยิ่งขึ้นครับ
หากคนไข้ต้องการให้ลดเหนียงด้วย ควรเลือกฉีดด้วยเทคนิค Botox Nefertiti lift เพราะเป็นการฉีดโบท็อกไปที่กล้ามเนื้อ Platysma บริเวณลำคอของคนไข้ ทำให้เหนียงลดลงด้วย เพราะผิวหนังถูกดึงขึ้น ส่วนในรายที่มีเหนียงด้านข้างเยอะ หากคุณหมอตรวจดูแล้วพบว่าเป็นต่อมน้ำลายจะสามารถฉีดโบท็อกเพื่อลดเหนียงได้ แต่จะทำให้คอแห้ง ซึ่งถือเป็นข้อเสียเพียงเล็กน้อย
คนที่อยากหน้าเรียว ต้องฉีดโบท็อกลดกราม เพียงแค่นั้นจริงหรือ?
การปรับใบหน้าให้เรียว คือปรับหน้าให้เข้ารูป ได้สัดส่วน เป็นทรงไข่คว่ำ ดังนี้
- ฉีดโบท็อกลดกราม ในกรณีที่กัดกรามและจับแก้ม แล้วพบว่ามีกล้ามเนื้อเยอะ
- ร้อยไหมดึงแก้ม ถ้าแก้มส่วนล่าง บริเวณมุมปากหย่อนคล้อยลงมามาก (หรือทำ HIFU ถ้าหย่อนไม่มาก)
- ฟิลเลอร์ร่องแก้ม, ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะสำหรับคนที่มีร่องแก้มและร่องใต้ตาลึก ซึ่งมักจะมีลักษณะแก้มตก ไม่กระชับ โหนกแก้มเด่น จึงส่งผลให้ใบหน้าดูสั้น และไม่ได้สัดส่วน
- ฉีดฟิลเลอร์คาง จะเห็นผลได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่คางสั้น คางตัด
การฉีดโบท็อก ลิฟหน้าเรียว ที่ไหนดี
ควรจะฉีด botox ลิฟหน้าเรียวที่ไหนดี การเลือกควรพิจารณาจากองค์ประกอบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- ตั้งราคาอย่างเหมาะสม ไม่แตกต่างไปจากคลินิกอื่น ๆ มากจนเกินไป
- มีรีวิวที่น่าเชื่อถือ จากคนที่เคยฉีดมาก่อน
- พิจารณาจากข้อมูลเคสรีวิวของแพทย์แต่ละท่าน
- ก่อนฉีดโบท็อกทุกครั้ง แพทย์ควรแกะกล่องและเปิดขวดใหม่ ผสมตัวยาให้คนไข้ดูต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าเป็น botox ของแท้สมกับราคาที่จ่ายไป และคนไข้สามารถขอนำกล่อง botox กลับไปเช็คที่บ้านได้ เพื่อตรวจสอบกับบริษัทที่นำเข้าต่อไปว่าเป็นตัวยาของแท้ได้มาตรฐาน
- ต้องมีการนัดดูผล หลังฉีดลิฟหน้าเรียวเสร็จแล้ว เพื่อติดตามผลการรักษาหลังทำ
ขอบคุณข้อมูล: Jessie Vard นางแบบเน็ตไอดอลชื่อดัง ลิฟท์กรอบหน้าและฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
จาก Youtube Channel: Vsquare Clinic
ลิฟหน้าเรียว ราคา?
การฉีดโบท็อกลิฟหน้าเรียว ราคาของการทำหัตถกรรมประเภทนี้ จะขึ้นอยู่กับปริมาณและยี่ห้อของ botox ที่เลือกใช้ ซึ่งในแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็จะให้ผลลัพธ์ ระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันไป โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินและเลือกใช้โบท็อกที่มีคุณสมบัติและราคาที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/